วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

เชียงใหม่วันที่สี่

- ซาวได้ก่ -
   
           วันนี้เป็นวันที่พวกเราได้นัด "ปติญ" ไว้ตอนบ่ายสองว่าจะไปกินอะไรด้วยกัน คิดถึงปติญมากดีใจมากๆที่ถึงวันนี้ ตอนเช้าเราอาบน้ำเป็นคนสุดท้ายเนื่องจาก ขก ตื่น มะปรางและกัญยังเป็นคนแรกๆที่ตื่นมาอาบน้ำอยู่ดี กราบเขาหล่ะค่ะ วันนี้แพลนของเราค่อนข้างเยอะมาก เรียกว่าแน่นทั้งวันเลยหล่ะขอบอก
          มื้อเช้าของพวกเราในวันนี้ คือ "คั่วไก่นิมมาน" อร่อยมากๆ ไม่เคยกินอร่อยขนาดนี้มาก่อนเนื่องจากมาเช้าจึงไม่ต้องรอคิวนานเลย ระหว่างทางเดินไปร้านเราก็เจอกับ ยาหยีโฮสเทลของอนันดาสวยมาก คิดว่าคราวหน้าจะมาพักที่นี่แหละ เจอร้าน iberry รู้สึกว่าซอยแถวนี้จะรวมร้านสวยๆไว้แหละ ก่อนจะถึงร้าน น้ำฝนเจอร้านๆนึงน่ารักมากน้ำฝนอยากเข้าแต่เราตัดสินใจไปกินของหนักกันก่อน เราเลือกกินแบบกระทะร้อน คนอื่นกินแบบไม่กระทะร้อน เราเลือกกินอันนี้เพราะเราชอบร้อนๆ และเราเป็นคนชอบเลือกกินด้วย ถ้าดูจากเมื่อวานเราเป็นคนที่ค่อนข้างทุ่มกับสิ่งที่อยากกิน
          หลังจากกินเสร็จ เราก็ไปต่อกันที่ "ร้าน SS1254372 Cafe" เป็นร้านที่น่ารักมากๆมี แกลอรี่เล็กๆ ร้านแต่งสไตล์อาร์ตๆต้นไม้ค่อนข้างเยอะและร่มรื่น เราสั่ง Jasmine hot tea มาดื่ม เพราะเพิ่งอิ่มมาจากคั่วไก่ คนอื่นสั่งกาแฟและของหวาน ระหว่างนั่งรอคนอื่นก็ไปถ่ายรูปเรากับกัญนั่งเฝ้าของ คือจริงๆเราขี้เกียจไปถ่ายรูปอยากนั่งดูบรรยากาศ แต่เนื่องจากเพื่อนไปกันนานมากเราเลยถ่ายรูปกันเองเพราะเขามาเสิร์ฟเครื่องดื่มพอดี ทุกคนจะได้น้ำเปล่าคนละแก้วแต่พอดื่มไปพบว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเพราะในน้ำมีกลิ่นของเปลือกส้มอยู่ พอรู้แบบนี้ออมเลยไม่กินน้ำนั้นเลยเพราะออมไม่ชอบผักและผลไม้ เรากินกันหมดและได้เข้าไปดูใน แกลอรี่ข้างใน เป็นภาพคนเปลือยกายทั้งหมดไปอยู่ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ ท่าแปลกๆ เป็นครั้งแรกที่เราเห็นรูปอะไรพวกนี้อยากเปิดเผย "ของชายไทยเล็กมาก" นี่คือความคิดแรกที่เห็น ฮ่าฮ่าฮ่า
และเราตัดสินใจต่อว่าจะไป "วัดพระสิงห์" โดยการเดินแบบเปิดกูเกิ้ลแมบ....
         เราเดินทางไกลมากๆ ที่จะไปวัดพระสิงห์ เดินตามกูเกิ้ลแมบ มันให้เลี้ยวซอกแซกมากเราเลยถามกันว่า ขอดูหน่อยดิ เราสรุปได้ว่าเราสามารถเดินตรงไปถนนใหญ่แล้วเลี้ยวซ้ายได้เลย ไม่ต้องเข้าไปข้างในเหมือนเป็นโรงพยาบาลอะไรสักอย่าง แต่ทุกคนก็ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในตามกูเกิ้ลแมบ เพราะดูเหมือนจะมีที่หลบร่มมากกว่าเดินบนฟุตบาต และนั่น...คือการตัดสินใจที่ดีแล้ว จริงๆ เราเดินไปตามกูเกิ้ลและพบว่าพวกเราเข้ามาอยู่ในดงของคณะแพทย์ มช ซึ่งเหมือนกำลังมีกิจกรรมอะไรอยู่ เราเดินไปสักพักก็ได้ยินเสียงดนตรีสดที่เล่นตรงไหนไม่รู้เพราะมาก มีเสียงเซกด้วย และเราก็เจอต้นเหตุที่เกิดเสียงไพเราะนี้ พวกเราทุกคนอ่อนระทวย มีความเขินนึกว่าเขาร้องให้ตัวเองกันทุกคน โดยเฉพาะเรากับมะปราง ฮ่าฮ่า จำไม่ได้แล้วว่าเพลงอะไรแต่ฟินมาก เดินๆไปเรื่อยๆก็ถึง "วัดพระสิงห์"
        พอมาถึงก็รู้ว่าเราเข้ามาจากหลังวัด ก็ไหว้พระ ชมความงดงาม ในตัวโบสถ์(เราอาจจะใช้คำไม่ถูก เพราะเราไม่มีความรู้)มีภาพให้เราดูว่าเมืองเชียงใหม่แต่อดีตเป็นอย่างไรบ้าง สมัยก่อนเชียงใหม่เขาเล่นสงกรานต์กันน่ารักมาก วิถีชีวิตของคนสมัยก่อนนั้นช้าคนสมัยนี้มาก หลังจากที่เราไหว้พระเสร็จออมแวะดูร้านโปสการ์ดในวัด เราได้โปสการ์ดมาอันนึงแต่มันกูเหมือนการ์ดมากกว่าแต่ทำจากกระดาษสา สวยมาก ในราคา 35 บาท หลังจากนั้นพวกเราก็เตรียมตัวเดินไปหา "ปติน" ที่เรานัดกันไว้ตรงสามกษัตริย์ นะหว่างทางเราเจอร้าน "Buri gallery house" ในร้านน่ารักมาก เป็นของ handmade ทั้งนั้น เป็นของไทยๆที่ประยุกต์ให้เข้ากับสากลไม่ไทยจัดมาก แต่ยังคงความเป็นไทยในสไตล์มินิมอล เสียเงินกับร้านนี้ไปกับโปสการ์ดที่น่ารักมากๆ และเกือบจะซื้อชาเก็กฮวยไปแล้วเพราะหอมมาก แต่เงินในกระเป๋ามันน้อยเหลือเกิน หลังจากที่คนอื่นเขียนโปสการ์ดส่งหาตัวเองแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปหา "ปติน"
        พอถึงที่หมายเราก็เจอปตินพอดี ด้วยความบังเอิญเราจึงเดินเข้าไปหาปตินกันด้วยความคิดถึงเราตั้งใจจะไปกิน "ก๋วยจั๊บอร่อย" เรามุ่งหน้าเดินตามกูเกิ้ลแมบไป และพอถึงร้านเราก็คิดว่า "นก" แน่ๆ ร้านบอกขายหมดนานแล้ว พวกเราเลยอดกิน เราเลยขอให้ทางร้านแนะนำร้านอร่อยๆแถวนี้ให้พวกเรา เขาแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวปลา ร้านข้าวมันไก่ เราตัดสินใจไป "ร้านก๋วยเตี๋ยวปลา" รหว่างทางเจอร้านขายน้ำ ปตินกับกันเลยแวะซื้อรอสักพักเราจึงเดินไปร้าน แต่ก็เจอร้านโปสการ์ดอีก อมมจึงแวะ พอเสร็จเดินต่อเจอร้านขาย soft ice cream ทุกคนชะงักและบอกว่ากินก๋วยเตี๋ยวก่อนค่อยมากินติมกัน พอถึงร้านเราได้นั่งโต๊ะไม้ที่ใหญ่ที่สุดในร้าน สั่งๆกันทุกคน ทุกคนก็มองไปที่ตู้ปลาที่เปิดอะไรพร้อมแต่ไม่มีปลา แล้วก็งงๆกันไป กินเสร็จำวกเราก็ไปกิน softice cream ต่อหลังจากนั้นพวกเราก็ไปไหว้พระธาตุหลวง เราใส่ขาสั้นไปเลยต้องใส่ผ้าถุงแต่โชคดีที่สีเข้ากับเสื้อเราพอดี เลยได้โอกาสถ่ายรูปตัวอย่างชาวพุทธ ฮาาาา หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจว่า เราจะไปกาดหลวงกัน
       พวกเรานั่งรถแดงไปกาดหลวง "ซาวบาท" เราตั้งใจไปซื้อไส้อั่วกับรถด่วน และต้องเป็น "ไส้อั่วป้าพัน" พอไปถึงก็หาร้านที่ตัวเองตั้งใจจะมาซื้อกัน สรุปไส้อั่วป้าพันไม่มีเลยไม่ซื้อ แต่ได้รถด่วนมา 1 กระปุกใหญ่ในราคา 550 บาทหลังจากนั้นเราก็รอออมที่ซื้อแคบหมูเจ้าเด็ดร้านดังซักพัก ตอนนั้นก็แกะรถด่วนกินเลยด้วยความอยากมานานมากๆ หันไปมองพลอยวีทำหน้าแปลกๆเลยยื่นให้กิน พลอยวีหย้าแหยขึ้นมาเลย ฮ่าฮ่าฮ่า เลยให้พลอยวีกินและปรากฎว่าไม่ชอบแหะ มะปรางก็ชอบหยิบกินด้วยกัน หลังจากรอออมเสร็จเราก็ดึ๊บๆ เดินกันไปต่อที่ร้านกาแฟ
      ร้านกาแฟนี้พลอยวีอยากมา เป็นคนพูดเกือบทุกวันว่าอยากมาๆกาแฟเนปาลๆ อะไรนี่แหละแต่ชื่อร้านจริงๆคือ "Thamel Coffee" ร้านนี้แต่งร้านให้บรรยากาศฌนปาลออกแนวนั้นแหละ อึมๆครึมๆสีจัดจ้านผ้าเต็มร้าน เราได้นั่งโต๊ะกลมทำให้รู็สึกเหมือนเป็นแม่บ้านมานั่งเมาส์มอยกันมากกว่า ขรรม หลังจากที่พวกเรากินกันเสร็จเราก็ตัดสินใจจะกลับที่พักไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะคืนนี้พวกเราจะไปเดินถนนท่าแพแล้วก็ไปต่อร้าน "North Gath Jazz Co-op" และอาจจะไป Zoe in yellow ที่กัญอยากไปแต่ส่วนตัวเราชอบร้านเพลงแจ๊สมากกว่า เราไม่ค่อยชอบเพลงตื๊ดๆ.. หลังจากนั้นเราแยกกับปติญที่กาดหลวง
     พอได้เวลาตอนเย็นเราก็ไปเดินถนนท่าแพกัน คนเยอะมาก เรากับออมจะเป็นลมตาลายคนเยอะไปหมด ออมได้โปสการ์ด เราได้กางเกงนอน 80 บาท คนอื่นได้ไหมไม่แน่ใจ แต่พวกเราได้กินลูกชิ้นปั้นสดซึ่งอร่อยมากๆ หลังจากนั้นพวกเราตัดสินใจไม่เดินต่อเพราะคนเยอะมากเลยเกินไปร้าน "North Gath Jazz" พอถึงร้านเหมือนพวกเราจะมาช้าไปมาก ไม่มีที่ให้พวกเรานั่งเลย แล้วก็มีแต่ฝรั่งแหละไม่มีคนไทยฟังแจ๊สเลยอ่อวะ อีกอย่างออมไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แต่แบบคนที่เล่นดนตรีสดข้างในคือเท่มาก ยืนฟังกันแปปนึงแล้วตัดสินใจว่า เออ ไป zoe in yellow ก็ได้เห็นกันอยากไปและนัดเพื่อนที่ มช ไว้แล้วก็ไปกัน
     พอถึงร้าน Zoe in yellow มันเป็นผับต้อง 20+ ซึ่งเรากับพลอยวี... ตอนนั้นใช้ความแรดเข้าไปและก็เข้าไปได้ อ่าหะ เออข้ามๆที่นี่ไปได้ไหมไม่ชอบเลยอ่ะ คือสั่งแสงโสมมากันเรากะไม่ดื่มอยู่แล้วแต่ก็ช่วยหารแหละ เราก็ไปเข้าห้องน้ำกับพลอยวี น้ำฝน ออม แล้วอีฝรั่งข้างหลังแม่งเต้นชนกุไม่หยุด มันตั้งใจกวนประสาท คือมันจะเข้าห้องน้ำแต่มีห้องเดียว แล้วมันจะไม่ต่อคิว เอานมเอาตูดชนอยู่นั่นแหละอีบ้าาาาาาาาาาา... สติมึงคงไปและอีนมโต พอกลับไปเพิ่งรู้ว่าพลอยวีโดนลูบ เออฝรั่งเวร พอมานั่งสักพักพลอยวีกับกันมะปรางไปเต้นตื้ดๆกันตรงดีเจ เรานั่งอยู่เฉยๆก็มีฝรั่งเซลงมากอด แล้วพูดว่า "I'm so sorry" กำลังจะพูด "Don't worry" ก็ไม่ฟังกุ ชั่งแม่ง แล้วอยู่ๆมันก็กอดอีกคราวนี้นี่โอบตัวกุเลจับแน่นมาก แล้วก็พูด "ขอโทษนะครับ" และก็มีคนไทยน่าจะเป็นการ์ดร้านลากออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นนี่แบบอีบ่ากูฟังอังกฤษรู้เรื่อง ไม่ต้องพูดไทยก็ได้ แล้วออมก็บอกว่ามันไม่ได้เมาออมเห็นกับตาว่ามันยืนเดินปกติ แล้วอยู่ๆมันก็ตั้งใจล้มมากอด เออดี แต่เอาจริงมันคงคิดว่าเราก็คงเป็นผู้หญิงแบบนั้นมั้ง ก็แต่งตัวโป๊อยู่ แต่ชอบแต่งแบบนี้ไงเวลามาเที่ยวงี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะมาโดนฟัน สรุปคือรู้ตัวเองดีว่าไม่เหมาะกับผับ เจอคนนัวกันจะเยกันบนโต๊ะอยู่แล้ว โอเค กลับ กินนม นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น